G-SHOCK presents THE ULTIMATE TOUGH MATCH

ปรากฏการณ์โปรเจคร่วมพิเศษ G-SHOCK x 3 สตรีทแบรนด์สัญชาติไทยระดับโลก

กลับมาสร้างปรากฏการณ์ช็อควงการสตรีทแฟชั่นกันอีกครั้ง ด้วยโปรเจค The Ultimate Tough Match (ดิ อัลติเมต ทัฟ แมทช์)

“The Ultimate Tough Match” เป็นการสร้างคำใหม่ที่มีความหมายพิเศษถึง ความแข็งแกร่งที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของแบรนด์ระดับโลกอย่างคาสิโอ จี ช๊อค และแบรนด์ไทยที่ก้าวไปสู่ระดับโลก ซึ่งมีแนวทางการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในแบบที่เน้นความเป็นผู้นำ กล้าคิดและกล้าทำในสิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม ความพิเศษของโปรเจคนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างคาสิโอ จี ช็อค และแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเมืองไทย ถึง 3 แบรนด์ด้วยกัน

กติกาและขั้นตอนการจัดจำหน่าย

G-FACTORY ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์

5,900 THB.

16 SEPTEMBER 2017

SOLD OUT!!

5,900 THB.

23 SEPTEMBER 2017

SOLD OUT!!

6,900 THB.

30 SEPTEMBER 2017

SOLD OUT!!

ขั้นตอนการซื้อสินค้า

(Updated 27 Sep.17)

ขั้นตอนที่ 1 : ลงทะเบียนรับสิทธิ์

  • เปิดลงทะเบียน เวลา 10.00 น. และปิดลงทะเบียนเวลา 13.30 น. ที่ Eden Zone ลานด้านข้างร้าน BOOTS ชั้น 3  ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (การลงทะเบียนในช่วงเวลาดังกล่าวไม่ได้เป็นสั่งซื้อล่วงหน้าแต่อย่างใด)
  • ลูกค้าลงทะเบียนที่จุดรับลงทะเบียนกับทีมงาน CASIO เท่านั้น
  • ลูกค้าที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ทุกท่านต้องนำบัตรประชาชนของตัวท่านเอง  นำมาลงทะเบียนด้วยตนเองเท่านั้น
  • สงวนสิทธิ์ 1 หมายเลขเลขบัตรประชาชน ต่อ 1 สิทธิ์ในการจับฉลากลำดับ
  • ลูกค้าทุกท่านต้องลงทะเบียน โดยเขียนชื่อ และข้อมูลให้ครบ บนสลากทั้ง 2 ส่วน ในเอกสารที่ออกจากทาง CASIO เท่านั้น
    • ส่วนที่ 1 สำหรับลูกค้าเก็บไว้ เพื่อนำมาแสดงตัวรับสิทธิ์
    • ส่วนที่ 2 สำหรับหย่อยลงในกล่องจับชิ้นส่วน

ขั้นตอนที่ 2 : จับฉลาก

  • เริ่มจับฉลากเวลา 14.00 น. จนครบ 300 ท่าน ตามจำนวนสินค้าที่ขายในแต่ละรอบ (รอบวันที่ 16  กันยายน สำหรับ CARNIVAL ,รอบวันที่ 23 กันยายน สำหรับ RUBBER KILLER และรอบวันที่ 30 กันยายน สำหรับ INDIGOSKIN)
  • ลูกค้าที่ถูกประกาศเรียกชื่อ และเบอร์ที่ตรงกับฉลากของท่านต้องแสดงตัวที่จุดลงทะเบียนพร้อมบัตรประชาชน ภายใน 10 นาทีหลังจากถูกประกาศเรียกชื่อ และฉลากที่นำมาแสดงตัว ต้องมีเลขที่ตรงกับฉลากที่จับขึ้นมาเท่านั้น  มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์
  • หากไม่มีการแสดงตัวในเวลาที่กำหนด หรือ ทำส่วนของสลากหาย ทางทีมงาน CASIO  ***ขอตัดสิทธิ์ในการซื้อสินค้า และจะทำการจับฉลากคนต่อไปทันที โดยไม่มีการเรียกย้อนหลัง***

ขั้นตอนที่ 3 : ชำระสินค้า และรับสินค้า

  • เพื่อให้การจัดงานอยู่ในระเบียบ และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทางทีมงาน CASIO จะอำนวยความสะดวก สำหรับคิวการจ่ายเงิน โดยแบ่งลูกค้าเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 50 ท่าน ตามลำดับการเรียก (รวมทั้งหมด 6 กลุ่ม) และจะมีเจ้าหน้าที่ของทาง CASIO เดินนำไปที่ร้าน G-Factory ชั้น 2 เพื่อชำระเงินและรับสินค้า
  • ลูกค้าต้องนำฉลากทั้ง 2 ส่วนมาที่ Cashier เพื่อทำการชำระเงิน (ส่วนที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่จะคืนให้หลังจากตรวจสอบสิทธิ์การซื้อเรียบร้อยแล้ว)
  • สามารถชำระได้ทั้งเงินสด และบัตรเครดิต
  • เมื่อชำระเงินเรียบร้อยให้นำใบเสร็จไปแสดงที่จุดรับสินค้าเพื่อรับสินค้า และทำการเช็คสินค้า

*หากตรวจพบการทุจริต ทางทีมงานขอตัดสิทธิ์ในการซื้อสินค้าทันที
*ขอสงวนสิทธิ์ในการจับฉลากซื้อสินค้า โดยทีมงาน CASIO เท่านั้น
*ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการซื้อสินค้าตามความเหมาะสม โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
*ไม่มีการจำหน่ายสินค้าในช่องทางออนไลน์

กำหนดการจัดจำหน่าย

  • 16 กันยายน 2560     G-SHOCK DW6900 x Carnival (5,900 บาท)  **SOLD OUT**
  • 23 กันยายน 2560     G-SHOCK DW5600 x Rubber Killer (5,900 บาท)
  • 30 กันยายน 2560     G-SHOCK GA710 x Indigoskin (6,900 บาท)

สถานที่จัดจำหน่าย

  • G-FACTORY ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์

CARNIVAL (คาร์นิวัล) – ร้านมัลติแบรนด์ชื่อดังสัญชาติไทย ที่ได้รับสิทธิ์ ในการขายรองเท้าผ้าใบระดับเอ็กซ์คลูซีฟหายากหลายรุ่น

ด้วยแนวคิดการออกแบบดีไซน์ที่ย้อนกลับไปในยุค 90 ซึ่งถือเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลง และการถือกำเนิดของสิ่งต่างๆ มากมายที่ต่อยอดมาถึงปัจจุบัน และ 1 ในศิลปะที่โดดเด่นในยุคนั้น ก็คือ Graffiti หรืองาน Street Art ที่ใช้การพ่นสีลงบนกำแพงเพื่อเป็นการแสดงออกของตัวตนไปยังสังคมต่างๆ  ซึ่งลวดลายแบบ Graffiti นั้นก็ได้ถูกนำมาวางลงบนนาฬิกาคาสิโอ จีช็อค รุ่น DW-6900BB-1DR ซึ่งเป็นอีกรุ่นที่มีความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และความทนทาน (Toughness) นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบมาอย่างยาวนาน ด้วยลวยลายแบบกราฟิตี้ที่ให้ความรู้สึกที่สนุกสนาน บ่งบอกความเป็นตัวตนได้อย่างชัดเจน และยังมีความร่วมสมัยความยุคต่อยุค จึงเป็นอีกนึงคอลเลคชั่นที่เหมาะแก่การเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง

SOLD OUT!!

SOLD OUT!!

Rubber Killer (รับเบอร์ คิลเลอร์) – แบรนด์แฟชั่นแอ็กเซสซอรีของผู้ชายที่มีการออกแบบที่โดดเด่นจากการนำวัสดุยางรถยนต์เหลือใช้มาบวกกับดีไซน์ที่สวยงาม

ด้วยนิยามที่นำเอาวัสดุเหลือใช้ กลับมาทำให้เป็นสิ่งที่มีคุณค่ากว่าเคย (Your Trash is My Treasure) โดยโฟกัสไปที่วัสดุ อย่างยางในของรถยนต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคาแรคเตอร์ที่แข็งแกร่ง ดุดัน ทนทาน (Toughness) ซึ่งเปรียบเสมือนกับนิยามของจี ช็อคนั่นเอง

คอนเซปต์ในการออกแบบนั้นมาจาก ลวดลายของยางรถยนต์ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ทนทาน พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ซึ่งได้ถูกนำมาวางบนตัวเรือนของคาสิโอ จีช็อคในรุ่น DW-5600E-1VDF ที่ต้องบอกว่า เป็นรุ่นที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของคาสิโอ จีช็อคได้อย่างชัดเจน เพราะถือเป็นรุ่นออริจินัลนั่นเอง ทั้งนี้ เมื่อผู้ที่เป็นเจ้าของนาฬิการุ่นนี้แล้ว ก็พร้อมที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อเผชิญหน้ากับทุกสิ่งบนโลกใบนี้

Indigoskin (อินดิโก สกิน) – แบรนด์เดนิมสายเลือดไทยที่กล้ากระโดดออกมาทำยีนส์ระดับ Premium เทียบเคียงกับแบรนด์ยีนส์ชื่อดังต่างๆจากนานาประเทศ

ด้วยความคิดที่ว่า สินค้าไทยมีคุณภาพที่ไม่ได้ด้อยกว่าใครบนโลกนี้ จึงเป็นแรงผลักดันให้แบรนด์ยีนส์ของไทย รายนี้ก้าวไปทัดเทียมกับแบรนด์ชั้นนำได้อย่างไม่ขัดเขิน และด้วยความที่วัสดุอย่างผ้ายีนส์ เป็นผ้าที่ขึ้นชื่อว่าทนทานที่สุดในโลก จึงเป็นการผสมผสานความแข็งแกร่ง (Toughness) ทั้งในส่วนของ Indigoskin และ Casio G SHOCK ได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ ยังใส่ความเป็นไทยด้วยลวดลายบ่อบัว ลงบนตัวเรือนนาฬิกาในรุ่น GA-710-1ADR ซึ่งทำให้เราได้เห็นศิลปะร่วมสมัยบนโลกแฟชั่นผ่านคอลเลคชั่นนี้ได้อย่างลงตัว ยามที่ได้สวมใส่จึงมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยเอกลักษณ์ของความเป็นไทยยังจะคงอยู่อย่างแน่นอน

SOLD OUT!!

โดยทั้ง 3 แบรนด์ที่กล่าวมานั้น ต่างก็ใช้เอกลักษณ์อันโดดเด่นของตัวเอง มาเป็นคอนเซปต์ในการออกแบบลวดลายบนนาฬิกาได้อย่างลงตัว แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง (Absolute Toughness) อันเป็นเอกลักษณ์ของจี ช็อค (G SHOCK) ที่มาอย่างยาวนาน